ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

Pay-Per-Click (PPC) คืออะไร? ทำความรู้จักกับการโฆษณาดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูง

Pay-Per-Click (PPC) คืออะไร? ทำความรู้จักกับการโฆษณาดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูง
KNmasters

Pay-Per-Click (PPC) คือโมเดลการโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตที่ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินให้กับแพลตฟอร์มที่ให้บริการโฆษณา เช่น Google Ads, Facebook Ads หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ตามจำนวนคลิกที่โฆษณาของตนได้รับ กล่าวคือ ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินเพียงเมื่อมีผู้คลิกโฆษณาของตน ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการโฆษณาที่ได้รับความนิยมสูงในยุคดิจิทัล

PPC เป็นเครื่องมือสำคัญในการตลาดออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ และทำให้เว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณได้รับการมองเห็นมากขึ้นในผลการค้นหาหรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ PPC ว่าคืออะไร, วิธีการทำงานของ PPC, ประเภทต่างๆ ของ PPC และข้อดีข้อเสียของการใช้ PPC ในการตลาดออนไลน์

PPC คืออะไร?

Pay-Per-Click (PPC) คือรูปแบบการโฆษณาผ่านออนไลน์ที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายเงินเพียงเมื่อมีการคลิกที่โฆษณาของตน เทียบกับการจ่ายตามจำนวนการแสดงผล (Impressions) ในโมเดลอื่นๆ โดย PPC จะมีการกำหนดราคาเฉพาะต่อคลิก โดยขึ้นอยู่กับการแข่งขันและคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้

PPC มักใช้ในแคมเปญโฆษณาของเครื่องมือค้นหาชั้นนำ เช่น Google Ads หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Facebook Ads และ Instagram Ads โดยโฆษณาจะถูกแสดงขึ้นตามคำค้นหาหรือพฤติกรรมของผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ต การใช้ PPC ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มโอกาสในการมองเห็นและการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว

วิธีการทำงานของ PPC

PPC ทำงานโดยการให้ผู้ลงโฆษณาสร้างแคมเปญโฆษณาและเลือก คีย์เวิร์ด หรือ กลุ่มเป้าหมาย ที่เหมาะสม เมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาหรือแสดงความสนใจในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดนั้นๆ โฆษณาของผู้ลงโฆษณาจะปรากฏบนผลการค้นหาหรือในฟีดข่าวของผู้ใช้

  1. เลือกแพลตฟอร์มโฆษณา: ผู้ลงโฆษณาต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เช่น Google Ads หรือ Facebook Ads
  2. เลือกคีย์เวิร์ดหรือกลุ่มเป้าหมาย: การเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณคือการกำหนดว่าคุณจะโฆษณาให้กับใคร
  3. ตั้งงบประมาณ: ผู้ลงโฆษณาจะต้องตั้งงบประมาณต่อวันหรือสำหรับแคมเปญเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
  4. จ่ายตามจำนวนคลิก: ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินเมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณาของตน
  5. วัดผล: หลังจากที่โฆษณาได้ถูกแสดงและคลิก ผู้ลงโฆษณาสามารถวัดผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณาและปรับปรุงตามความจำเป็น

ประเภทของ PPC

PPC มีหลายประเภทที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกใช้ตามความต้องการและลักษณะธุรกิจของตน

  1. Search Ads (โฆษณาบนผลการค้นหา)
    • โฆษณาที่แสดงในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาต่างๆ เช่น Google โดยโฆษณาจะปรากฏเมื่อผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
    • เช่น การค้นหาคำว่า “ซื้อรองเท้าผ้าใบ” แล้วพบโฆษณาของร้านรองเท้า
  2. Display Ads (โฆษณาบนเว็บไซต์)
    • โฆษณาที่แสดงบนเว็บไซต์ที่เข้าร่วมกับโครงการโฆษณาของ Google Display Network หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ
    • โฆษณาจะปรากฏเป็นแบนเนอร์หรือกราฟิกบนเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ใช้เยี่ยมชม
  3. Social Media Ads (โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย)
    • โฆษณาที่แสดงบนโซเชียลมีเดียเช่น Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn ซึ่งสามารถตั้งเป้าหมายผู้ใช้ตามพฤติกรรมและความสนใจ
    • โฆษณาจะถูกปรับให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ในโซเชียลมีเดีย
  4. Shopping Ads (โฆษณาสินค้า)
    • โฆษณาที่แสดงสินค้าหรือบริการที่มีรายละเอียด เช่น รูปภาพ ราคา และชื่อสินค้า โดยโฆษณาจะปรากฏใน Google Shopping หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่รองรับการโฆษณาแบบนี้
  5. Remarketing Ads (โฆษณารีมาร์เก็ตติ้ง)
    • โฆษณาที่แสดงให้กับผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณแล้วแต่ไม่ได้ทำการซื้อหรือดำเนินการตามที่คาดหวัง โฆษณานี้ช่วยให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์และดำเนินการตามเป้าหมาย

ข้อดีของ PPC

  1. การควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
    • การโฆษณาด้วย PPC ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจ่ายเงินเฉพาะเมื่อโฆษณาถูกคลิก
  2. เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า
    • PPC ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มการมองเห็นและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอเวลานานเหมือน SEO
  3. การวัดผลที่แม่นยำ
    • PPC ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถติดตามและวัดผลแคมเปญโฆษณาได้อย่างละเอียด เช่น จำนวนคลิก, อัตราการแปลง, และ ROI
  4. การกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำ
    • สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียด เช่น อายุ, เพศ, พฤติกรรมการซื้อ, และความสนใจ ซึ่งช่วยให้โฆษณาของคุณไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

ข้อเสียของ PPC

  1. ค่าใช้จ่ายที่สูง
    • ถ้าไม่บริหารจัดการดีๆ การใช้ PPC อาจทำให้ค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะเมื่อทำแคมเปญในคำค้นหาที่มีการแข่งขันสูง
  2. ต้องการการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
    • เพื่อให้ PPC มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องการการติดตามผลและปรับแคมเปญอย่างสม่ำเสมอ
  3. ผลลัพธ์ชั่วคราว
    • PPC ให้ผลลัพธ์ทันทีที่แคมเปญเริ่มต้น แต่เมื่อหยุดแคมเปญ ผลลัพธ์จะหายไปทันทีต่างจาก SEO ที่สร้างผลลัพธ์ระยะยาว

สรุป

Pay-Per-Click (PPC) เป็นวิธีการโฆษณาที่ได้รับความนิยมสูงในวงการการตลาดดิจิทัล โดยช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการจ่ายเงินตามจำนวนคลิกที่โฆษณาของตนได้รับ

PPC มีข้อดีหลายประการ เช่น การควบคุมค่าใช้จ่าย, การวัดผลที่แม่นยำ, และการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุด แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ ค่าใช้จ่ายที่อาจสูงและผลลัพธ์ที่ชั่วคราว ดังนั้น การใช้ PPC ควรทำควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์อื่นๆ เช่น SEO เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

ติดต่อเรา

บทความที่เกี่ยวข้อง

glowing-neon-circle-portal-with-smoke-wooden-platform (Web H)
ในโลกของการพัฒนาเว็บไซต์และเว็บแอปพลิเคชัน, JavaScript คือภาษาการเขียนโปรแกรมที่ขาดไม่ได้ในการสร้างฟ...
KNmasters
ในยุคที่อินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลอีกต่อไป แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้มีส่วนร...
KNmasters
การสักลายไม่เพียงแต่เป็นศิลปะที่สวยงาม แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงตัวตนและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละบุคคล...
KNmasters
ในยุคที่ผู้คนเข้าชมเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์หลากหลายขนาด ทั้งสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก ไปจนถึงเดสก์ท็อปห...
KNmasters
Infographic (อินโฟกราฟิก) คือหนึ่งในรูปแบบการนำเสนอข้อมูลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในยุคดิจิทัล ...
Informational Keywords-cover
หนึ่งในกลยุทธ์ SEO ที่มีพลังมากที่สุดในการดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างยั่งยืน คือการใช้ Informationa...