หากคุณเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์หรือเจ้าของเว็บที่ใช้งาน WordPress มาสักพัก คงเคยได้ยินชื่อของ Crocoblock และ Advanced Custom Fields (ACF) สองปลั๊กอินยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการสร้างเว็บไซต์แบบ Custom Development โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเยอะ
คำถามสำคัญคือ… เลือกตัวไหนดี? บทความนี้จะเปรียบเทียบ Crocoblock กับ ACF แบบเต็ม ๆ เพื่อให้คุณเลือกปลั๊กอินที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างมั่นใจ
หัวข้อ
ACF (Advanced Custom Fields) คืออะไร?
ACF คือปลั๊กอินสำหรับ WordPress ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่ม Custom Fields หรือ “ช่องข้อมูลเพิ่มเติม” ไปยังโพสต์ หน้า หรือ Custom Post Types ได้อย่างง่ายดาย
จุดเด่นของ ACF
- เพิ่มฟิลด์หลากหลาย เช่น Text, Image, Repeater, Gallery ฯลฯ
- ใช้งานร่วมกับธีมหรือโค้ด PHP ได้ง่าย
- น้ำหนักเบา ไม่กินทรัพยากร
- เหมาะกับนักพัฒนาที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูล
Crocoblock คืออะไร?
Crocoblock คือชุดปลั๊กอิน (Plugins Suite) สำหรับ WordPress ที่ทำงานร่วมกับ Elementor Page Builder ได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์แบบ Dynamic Content โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
จุดเด่นของ Crocoblock
- รวมปลั๊กอินหลายตัว เช่น JetEngine, JetSmartFilters, JetBooking ฯลฯ
- สร้าง Custom Post Types, Taxonomies และ Relations ได้ในคลิกเดียว
- ทำงานร่วมกับ Elementor แบบ Visual UI
- เหมาะสำหรับสาย Visual Builder และนักออกแบบเว็บไซต์
Crocoblock vs ACF ตารางเปรียบเทียบแบบชัดเจน
| คุณสมบัติ | ACF | Crocoblock (JetEngine) |
|---|---|---|
| รองรับ Custom Fields |  | |
| สร้าง Custom Post Type & Taxonomy |  (ต้องใช้ ACF Extended หรือ CPT UI) | |
| รองรับ Repeater / Group Field | (Pro version) | |
| สร้างความสัมพันธ์ข้อมูล (Relations) | (ต้องใช้ Add-on) | ใน JetEngine |
| แสดงผลแบบ Visual (ไม่เขียนโค้ด) | | (ผ่าน Elementor) |
| ฟิลเตอร์ / Search แบบ Dynamic | | (ผ่าน JetSmartFilters) |
| รองรับ Booking / Listing Directory | | (ผ่าน JetBooking / JetListing) |
| ความง่ายในการใช้งานสำหรับมือใหม่ |  | |
| เหมาะกับใคร | นักพัฒนา, Full-stack Dev | นักออกแบบ, Freelancer, Website Builder |
ข้อดีของ ACF
- น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการความเร็วสูง
- ใช้ร่วมกับธีม Custom ได้ยืดหยุ่น
- มีระบบฟิลด์ให้เลือกมากกว่า 30+ แบบ
- รองรับการเชื่อมต่อกับ REST API
- มี ACF Blocks สำหรับ Gutenberg
ข้อดีของ Crocoblock
- รวมเครื่องมือครบในแพ็กเดียว (All-in-One)
- ใช้งานง่ายกับ Elementor โดยไม่ต้องแตะโค้ด
- สร้างฟอร์ม ฟิลเตอร์ และ Dynamic Listings ได้ทันที
- เหมาะกับการทำ Booking Website, Real Estate, Directory Site
- มีระบบ Query Builder ใช้งานง่ายมาก
ข้อจำกัดของ ACF
- ต้องเขียนโค้ดเพื่อแสดงผลข้อมูลในหน้าเว็บ
- ไม่มีระบบแสดงผลแบบ Visual (เหมาะกับ Dev มากกว่าดีไซเนอร์)
- ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างต้องซื้อ Pro
ข้อจำกัดของ Crocoblock
- ใช้งานได้ดีที่สุดเฉพาะกับ Elementor (ไม่เหมาะกับ Gutenberg หรือ Builders อื่น ๆ)
- มีปลั๊กอินย่อยหลายตัว อาจต้องเรียนรู้หลายส่วน
- บางคนมองว่าระบบค่อนข้าง “หนัก” หากใช้หลายปลั๊กอินพร้อมกัน
คำแนะนำ: เลือก Crocoblock หรือ ACF ดี?
| หากคุณ… | เราแนะนำ |
|---|---|
| เป็น Developer ที่ต้องการเขียนโค้ดเอง | ACF |
| ชอบใช้ Elementor และต้องการระบบ Visual | Crocoblock |
| ต้องการเว็บแบบ Listing, Booking, Directory | Crocoblock |
| ต้องการเว็บไซต์เบา โหลดเร็ว และ Custom ด้วย PHP | ACF |
| ทำเว็บไซต์ให้ลูกค้าหลายประเภท | ใช้ร่วมกันได้ทั้งคู่ (ACF + Crocoblock) |
สรุป Crocoblock vs ACF ใครคือผู้ชนะ?
ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะทั้ง Crocoblock และ ACF ต่างมีจุดแข็งเฉพาะของตัวเอง ขึ้นอยู่กับ ลักษณะของโปรเจกต์ และ ทักษะของผู้ใช้งาน
- ACF = ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Dev สาย Custom
- Crocoblock = ทางลัดสำหรับนักออกแบบที่ต้องการสร้าง Dynamic Website โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
ถ้าคุณต้องการความยืดหยุ่นสูงสุด อาจใช้ ACF ร่วมกับ Page Builder อย่าง Elementor หรือใช้ Crocoblock เพื่อเร่งการทำงาน ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ติดต่อเรา
- Facebook : KNmasters รับทำเว็บไซต์ WordPress SEO Backlink การตลาดออนไลน์ครบวงจร
- LINE : KNmasters
- Youtube : KNmasters
- Instagram : knmasters.official
- Tiktok : KNmasters.official
- Twitter : KNmasters Official
- เว็บไซต์ : www.knmasters.com
- แผนที่ : KNmasters
บริการของเรา
หมวดหมู่
ป้ายกำกับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
